วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2551

ประชาสัมพันธ์หลักสูตรคอมพิวเตอร์


ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของโปรแกรมวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มีทั้งหมด 6 ห้อง โดยมีการปรับปรุงทางด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ให้เป็นปัจจุบันและทันสมัยเสมอ และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งกับผู้เรียนและผู้สอนอย่างครบครัน และทุกห้องสามารถเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อการสืบค้นข้อมูลและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้โดยสะดวก
โปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับปริญญาตรี 4ปี
หลักสูตรโปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจBachelor’s Degree Program of Business Administration in Business Computerชื่อปริญญา

ชื่อเต็ม : ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)Bachelor of Business Administration (Business Computer)

ชื่อย่อ : บธ.บ. (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)B.B.A. (Business Computer)
จุดประสงค์เฉพาะ

1. เพื่อผลิตบัณฑิตด้านบริหารธุรกิจที่มีความรู้ ความสามารถ ในการบริหารธุรกิจระดับ วิชาชีพ (Professional) และนำไปประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี

2. เพื่อผลิตบัณฑิตด้านบริหารธุรกิจที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในวิชาชีพ เช่นด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การบัญชี การเงินและการธนาคาร การตลาด การบริหารอุตสาหกรรม เลขานุการ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ การจัดการคุณภาพธุรกิจระหว่างประเทศ ธุรกิจบริการ สามารถประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ

3. เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีเจตคติที่ดี และทักษะเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม

4. เพื่อผลิตบัณฑิตที่สนองความต้องการของตลาดแรงงาน และสอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

5. เพื่อให้บัณฑิตสามารถนำความรู้ไปเป็นแนวทางการศึกษาในระดับสูงต่อไป


โครงสร้างหลักสูตร

มีหน่วยกิตการเรียนตลอดหลักสูตรในแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจไม่น้อยกว่า 149 หน่วยกิต และมีสัดส่วนหน่วยกิตแต่ละหมวดวิชาและแต่ละกลุ่มวิชา ดังนี้
1. หมวดวิชาการศึกษาทั่วไป 33 หน่วยกิต
(1) กลุ่มวิชาภาษาและการสื่อสาร 9 หน่วยกิต
1500101 ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น 3(3-0)
1500102 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น 3(3-0)
1500103 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและทักษะการเรียน 3(3-0)
(2) กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ 9 หน่วยกิต
1500104 ความจริงของชีวิต 3(3-0)
2000102 สุรทรียภาพของชีวิต 3(3-0)
2500101 พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน 3(3-0)
(3) กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ เรียนไม่เกิน 6 หน่วยกิต
2500102 วิถีไทย 3(3-0)
2500103 วิถีโลก 3(3-0)
2500104 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม 3(3-0)
(4) กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 9 หน่วยกิต
4000105 วิทยาศาสตร์เพื่อคุณภาพชีวิต 3(3-0)
4000106 การคิดและการตัดสินใจ 3(3-0)
4000107 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต 3(2-2)
22. หมวดวิชาเฉพาะด้าน 106 หน่วยกิต
(1) กลุ่มวิชาเนื้อหา 84 หน่วยกิตบังคับเรียน 47 หน่วยกิต
1541203 ภาษาไทยธุรกิจ 3(3-0)
1551605 ภาษาอังกฤษธุรกิจ 1 3(3-0)
1551606 ภาษาอังกฤษธุรกิจ 2 3(3-0)
2562302 กฎหมายธุรกิจ 3(3-0)
3503901 การวิจัยทางธุรกิจ 3(2-2)
3504101 จริยธรรมทางธุรกิจ 3(3-0)
3521101 การบัญชี 1 3(2-2)
3521102 การบัญชี 2 3(2-2)
3531101 การเงินธุรกิจ 3(3-0)
3541101 หลักการตลาด 3(3-0)
3562402 การบริหารทรัพยากรมนุษย์ 3(3-0)
3564201 การจัดการเชิงกลยุทธ์ 2(2-0)
3592101 เศรษฐศาสตร์จุลภาค 1 3(3-0)
3592102 เศรษฐศาสตร์มหภาค 1 3(3-0)
3593301 การวิเคราะห์เชิงปริมาณ 3(3-0)
4112105 สถิติธุรกิจ 3(3-0)
(2) แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 37 หน่วยกิต
2.1 บังคับเรียน 18 หน่วยกิต
3503201 การจัดระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูลธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4121103 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอัลกอริทึ่ม 3(2-2)
4121202 การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1 3(2-2)
4122201 ฐานข้อมูลเบื้องต้น 3(2-2)
4122202 โครงสร้างข้อมูล 3(2-2)
4122502 การวิเคราะห์และออกแบบระบบ 1 3(2-2)
2.2 เลือกเรียน ให้เลือกเรียนรายวิชาต่อไปนี้ไม่น้อยกว่า 19 หน่วยกิต [เรียน 7 วิชา]
3501201 การใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่องานเอกสารธุรกิจ 1 3(2-2)
3501202 การใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่องานเอกสารธุรกิจ 2 3(2-2)
3502201 ระบบสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน 3(2-2)
3503202 การจัดการงานเลขานุการและธุรการด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3503203 การประมวลผลการวิจัยทางธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3504201 การจัดการของคงคลังด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3504202 การวางระบบบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3504203 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ 3(2-2)
3504204 ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร 3(2-2)
3534106 โปรแกรมประยุกต์ทางการเงิน 3(3-0)
3562104 การจัดการธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3563204 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 3(3-0)
3564908 สัมมนาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 3(2-2)
4091606 คณิตศาสตร์สำหรับคอมพิวเตอร์ 3(3-0)
4121301 โปรแกรมภาษาเบสิก 1 3(2-2)
4121302 โปรแกรมภาษาโคบอล 1 3(2-2)
34121401 ระบบปฎิบัติการ 1 3(2-2)
4122203 การประมวลผลแฟ้มข้อมูล 3(2-2)
4122304 โปรแกรมภาษาซี 3(2-2)
4122401 ภาษาคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4122602 โปรแกรมประยุกต์ด้านการจัดการสำนักงานอัตโนมัติ 3(2-2)
4122603 คอมพิวเตอร์กราฟิก 3(2-2)
4122606 โปรแกรมประยุกต์ด้านระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร 3(2-2)
4122701 ระบบคอมพิวเตอร์และสถาปัตยกรรม 3(2-2)
4123303 โปรแกรมภาษาปาสคาล 2 3(2-2)
4123304 โปรแกรมภาษาแอสเซมบลี 3(2-2)
4123601 โปรแกรมประยุกต์ด้านสถิติและวิจัย 3(2-2)
4123603 โปรแกรมประยุกต์ด้านการเงินและการบัญชี 3(2-2)
4123604 โปรแกรมประยุกต์ด้านการควบคุมสินค้า 3(2-2)
4123605 โปรแกรมประยุกต์ด้านงานทะเบียนบุคคลและการจ่ายเงินเดือน 3(2-2)
4123611 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการธนาคาร 3(2-2)
4123615 โปรแกรมประยุกต์ด้านงานธุรการ 3(2-2)
4123612 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 3(2-2)
4123607 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ 3(2-2)
4123613 คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ 3(2-2)
4123617 การประยุกต์ใช้งานมัลติมีเดีย 3(2-2)
4123903 หัวข้อพิเศษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4124501 ปัญญาประดิษฐ์ 3(2-2)
(3) กลุ่มวิชาวิทยาการจัดการบังคับเรียน 15 หน่วยกิต
3532202 การภาษีอากรธุรกิจ 3(3-0)
3543101 การบริหารการตลาด 3(3-0)
3561101 องค์การและการจัดการ 3(3-0)
3562307 การบริหารการผลิต 3(3-0)
3524301 การบัญชีเพื่อการจัดการ 3(3-0)
(4) กลุ่มวิชาปฏิบัติการและฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 7 หน่วยกิต
3503813 การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพการบริหารธุรกิจ 3 2(90)
3504804 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพการบริหารธุรกิจ 3 5(350)
3. หมวดวิชาเลือกเสรี 10 หน่วยกิตให้เลือกเรียนรายวิชาใด ๆ ในหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยไม่ซ้ำกับรายวิชาที่เคยเรียนมาแล้ว และต้องไม่เป็นรายวิชาที่กำหนดให้เรียนโดยไม่นับหน่วยกิตรวมในเกณฑ์การสำเร็จหลักสูตรของโปรแกรมวิชาน
โปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับปริญญาตรี (หลังอนุปริญญา)
หลักสูตรโปรแกรมวิชาการบริหารธุรกิจ แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจBachelor of Business Administration Program in Business Computerชื่อ ปริญญา
ชื่อเต็ม : ปริญญาการบริหารธุรกิจบัณฑิต (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)Bachelor of Business Administration (Business Computer)
ชื่อย่อ : บธ.บ. (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)B.B.A. (Business Computer)
จุดประสงค์เฉพาะ
1. เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการบริหารธุรกิจระดับวิชาชีพ (Professional) ในวิชาบริหารธุรกิจเฉพาะทาง ในวิชาการด้านต่าง ๆ ที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจและสังคม สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจ ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เพื่อผลิตบุคลากรที่สามารถติดตามและปรับตัวให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลง ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีฯ และการบริหารธุรกิจในงานอาชีพ
4. เพื่อผลิตบุคลากรที่มีเจตคติและค่านิยมในการประกอบอาชีพอิสระอย่างมีคุณภาพ จริยธรรม และปัญญาธรรมโครงสร้างหลักสูตรมีหน่วยกิตการเรียนตลอดหลักสูตรในแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจไม่น้อยกว่า 73 หน่วยกิต และมีสัดส่วนหน่วยกิต แต่ละหมวดวิชาและแต่ละกลุ่มวิชา ดังนี้
1. หมวดวิชาการศึกษาทั่วไป 18 หน่วยกิต
(1) กลุ่มวิชาภาษาและการสื่อสาร 3 หน่วยกิต
1500103 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและทักษะการเรียน 3(3-0)
(2) กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ 6 หน่วยกิต
2500101 พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน 3(3-0)
2000101 สุนทรียภาพของชีวิต 3(3-0)
(3) กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ เรียนไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต แต่ไม่เกิน 6 หน่วยกิต
2500103 วิถีโลก 3(3-0)และ/หรือ
2500104 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม 3(3-0)
(4) กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรียนไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต แต่ไม่เกิน 6 หน่วยกิต
4000102 การคิดและการตัดสินใจ 3(2-2)และ/หรือ
4000108 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
3(2-2)2. หมวดวิชาเฉพาะด้าน (แขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ) 49 หน่วยกิต
(1) กลุ่มวิชาเนื้อหา 35 หน่วยกิต
1.1 บังคับเรียน 24 หน่วยกิต
1551606 ภาษาอังกฤษธุรกิจ 2 3(3-0)
3503901 การวิจัยทางธุรกิจ 3(2-2)
3504101 จริยธรรมทางธุรกิจ 3(3-0)
3564201 การจัดการเชิงกลยุทธ์ 3(3-0)
3593301 การวิเคราะห์เชิงปริมาณ 3(3-0)
3503201 การจัดระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูลธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์
3(2-2 4122502 การวิเคราะห์และออกแบบระบบ 1 3(2-2)
4121202 การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1 3(2-2)
1.2 เลือกเรียน ให้เลือกเรียนรายวิชาต่อไปนี้ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
3503202 การจัดการงานเลขานุการและธุรการด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3503203 การประมวลผลการวิจัยทางธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3504201 การจัดการของคงคลังด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3504202 การวางระบบบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
3562104 การจัดการธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
35694908 การสัมมนาคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4091606 คณิตศาสตร์สำหรับคอมพิวเตอร์ 3(3-0)
4121103 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอัลกอริทึ่ม 3(2-2)
4121301 โปรแกรมภาษาเบสิก 1 3(2-2)
4121302 โปรแกรมภาษาโคบอล 1 3(2-2)
4122201 ฐานข้อมูลเบื้องต้น 3(2-2)
4122202 โครงสร้างข้อมูล 3(2-2)
4122203 การประมวลผลแฟ้มข้อมูล 3(2-2)
4122401 ภาษาคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4122602 โปรแกรมประยุกต์ด้านการจัดการสำนักงานอัตโนมัติ 3(2-2)
4122603 คอมพิวเตอร์กราฟิก 3(2-2)
4122606 โปรแกรมประยุกต์ด้านระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร 3(2-2)
4122701 ระบบคอมพิวเตอร์และสถาปัตยกรรม 3(2-2)
4123601 โปรแกรมประยุกต์ด้านสถิติและวิจัย 1 3(2-2)
4123603 โปรแกรมประยุกต์ด้านการเงินและการบัญชี 3(2-2)
4123604 โปรแกรมประยุกต์ด้านการควบคุมสินค้า 3(2-2)
4123605 โปรแกรมประยุกต์ด้านงานทะเบียนบุคคลและการจ่ายเงินเดือน 3(2-2)
4123607 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ 3(2-2)
4123611 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการธนาคาร 3(2-2)
4123612 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 3(2-2)
4123613 คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ 3(2-2)
4123615 โปรแกรมประยุกต์ด้านงานธุรการ 3(2-2)
4123619 การประยุกต์ใช้มัลติมีเดีย 3(2-2)
4123702 ระบบการสื่อสารข้อมูล 3(2-2)
4123903 หัวข้อพิเศษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 3(2-2)
4124501 ปัญญาประดิษฐ์ 3(2-2)
ข้อกำหนดเฉพาะ
1) ในกรณีเคยเรียนรายวิชาบังคับในระดับอนุปริญญาตามหลักสูตรของสถาบันราชภัฏแล้วให้เลือกเรียนรายวิชาเลือกในแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจตาม 1.2 แทน2) ผู้ที่ไม่เคยเรียนรายวิชาต่อไปนี้
3592101 เศรษฐศาสตร์จุลภาค 1
3592102 เศรษฐศาสตร์มหภาค 1
3521101 การบัญชี 1
3521102 การบัญชี 2
4112105 สถิติธุรกิจ
3531101 การเงินธุรกิจ
3541101 หลักการตลาด
ให้เรียนโดยไม่นับหน่วยกิตรวม ในเกณฑ์การสำเร็จการศึกษา
3) สำหรับผู้ที่เคยสอบได้รายวิชาที่มีเนื้อหาเทียบเท่าหรือเคยสอบได้รายวิชาที่สูงกว่ารายวิชาที่กำหนดไว้ใน ข้อ 2) มาแล้วในระดับอนุปริญญาหรือเทียบเท่าให้ยกเว้นไม่ต้องเรียน(2) กลุ่มวิชาวิทยาการจัดการบังคับเรียน 9 หน่วยกิต
3524301 การบัญชีเพื่อการจัดการ 3(3-0)
3543101 การบริหารการตลาด 3(3-0)
3562307 การบริหารการผลิต 3(3-0)ข้อกำหนดเฉพาะ
1) ผู้ที่เรียนแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจในระดับปริญญาตรี (หลังอนุปริญญา) ต้องผ่านการศึกษารายวิชาคอมพิวเตอร์ไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิต
2) ผู้ที่ไม่เคยเรียนรายวิชา
3561101 องค์การและการจัดการ และ
3532202 การภาษีอากรธุรกิจ ให้เรียนโดยไม่นับหน่วยกิตรวมในเกณฑ์กาสำเร็จการศึกษา
3) สำหรับผู้ที่เคยสอบได้รายวิชาที่มีเนื้อหาเทียบเท่าหรือเคยสอบได้รายวิชาที่สูงกว่ารายวิชาที่กำหนดไว้ในข้อ 2) มาแล้วในระดับอนุปริญญาหรือเทียบเท่าให้ยกเว้นไม่ต้องเรียน
4) กรณีที่เคยเรียนรายวิชาบังคับของกลุ่มวิทยาการจัดการมาแล้วในระดับอนุปริญญา ให้เลือกเรียนรายวิชาเลือกในแขนงวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจที่กำหนดไว้ใน 1.2 แทน(3) กลุ่มวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์และฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 5 หน่วยกิต
3503811 การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 2 2(90)
3504808 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 2 3(210)
3. หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิตให้เลือกเรียนรายวิชาใด ๆ ในหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยไม่ซ้ำกับรายวิชาที่เคยเรียนมาแล้ว และต้องไม่เป็นรายวิชาที่กำหนดให้เรียนโดยไม่นับหน่วยกิตรวมเป็นเกณฑ์ในการสำเร็จหลักสูตรของโปรแกรมวิชานี

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2551

การสร้างจดหมายเวียน

จดหมายเวียน
จดหมายเวียน คือ จดหมายทีมีข้อความเติมซ้ำๆ กันทุกๆ ฉบับ จดหมายแต่ละฉบับแตกต่างเฉพาะบางส่วนของจดหมายเท่านั้น ตัวอย่างจดหมายประเภทนี้ ได้แก่ จดหมายเชิญตัวแทนจำหน่ายสินค้ามาประชุมที่สำนักงานใหญ่ จดหมายนี้จะมีข้อความเชื้อเชิญมาประชุมเหมือนกันทุกฉบับ แต่ละฉบับจะแตกต่างกันเพียงชื่อและที่อยู่เท่านั้น ลองคำนวณดูว่าถ้าคุณมีตัวแทน 300 คน คุณต้องแก้จดหมายในที่เดิมๆ มากมายเพียงใด

เริ่มต้นกับจดหมายเวียน

วิธีการทำจดหมายเวียน การใช้ Microsoft Word ปัญหาการทำงานที่ซ้ำซ้อนดังกล่าวอาจทำได้ง่ายขึ้น โดยคุณสร้างจดหมายที่มีข้อความจะใช้ร่วมกันไว้ก่อน จากนั้นก็กำหนดให้ Word ใส่ข้อความที่แตกต่างกันนั้นโดยอัตโนมัติ วิธีดังกล่าวมีขั้นตอนดังนี้
เริ่มแรกด้วยการสร้างเนื้อความในจดหมาย ขั้นตอนแรกของการทำจดหมายเวียนก็คือ การจัดทำตัวจดหมายที่มีข้อความที่จะใช่ร่วมกัน เราเรียกจดหมายนี้ว่า เอกสารหลัก โดยคุณต้องเว้นที่ว่างไว้สำหรับใส่ชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นของผู้รับต่อจากนั้นก็ให้ Save จดหมายนี้เก็บไว้เพื่อไว้ใช้ในคราวต่อๆ ไปสร้างตารางข้อมูลของผู้รับจดหมาย

การเตรียมแฟ้มจดหมาย
การสร้างตารางข้อมูลของผู้รับจดหมาย ขั้นตอนที่สองที่คุณต้องทำก็คือ การเก็บข้อมูลต่างๆ ของผู้รับจดหมายเช่น ชื่อ ที่อยู่ ตำแหน่ง บริษัท ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บในลักษณะเป็นแบบฐานข้อมูลที่เราเรียกว่า แหล่งเก็บข้อมูล คือ คุณสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ทุกเมื่อตามต้องการ วิธีการสร้างตารางเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ ทำได้ดังนี้
1. เครื่องมือ => จดหมายเวียน จะปรากฎ กรอบโต้ตอบตัวช่วยเหลือจดหมายเวียน
2. คลิกเมาส์ สร้าง => จากจดหมาย
3. คลิกเมาส์ ที่ปุ่มหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ เพื่อกำหนดว่าจะสร้างจดหมายเวียนจากจดหมายฉบับที่คุณกำลังเปิดอยู่นี้
4. คลิกเมาส์ ที่ปุ่มรับข้อมูล => สร้างแหล่งข้อมูล จะปรากฎกรอบโต้ตอบขึ้นมา
5. เลือกหัวข้อเขตข้อมูลที่จะใช้ในตารางข้อมูล โดยดูหัวข้อรายการจากชื่อเขตข้อมูลในบรรทัดนำ โดยสามารถกำหนด ดังนี้
- ถ้าหัวข้อใดไม่ต้องการให้คลิกเมาส์เลือกหัวข้อนั้น แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่มเอาชื่อเขตข้อมูลออก
- ถ้าต้องการเพิ่มหัวข้อลงในรายการ ให้กรอกหัวข้อใหม่ในกรอบชื่อเขตข้อมูล : จากนั้นใหคลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพิ่มชื่อเขตข้อมูล

6. เมื่อทำการกำหนดเรียบร้อยให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม ตกลง
7. ตั้งชื่อไฟล์และกำหนดตำแหน่งสำหรับ save ตารางฐานข้อมูล
8. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม save ก็จะปรากฎกรอบโต้ตอบ
9. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม แก้ไขแหล่งข้อมูล ก็จะปรากฎรูปแบบการกรอกข้อมูลขึ้นมาเพื่อจะใส่ข้อมูลของผู้รับจดหมายในตารางฐานข้อมูล


การเตรียมแฟ้มข้อมูล


การทำจดหมายเวียนที่มีแฟ้มข้อมูลอยู่แล้ว

การรวมจดหมายเวียนเข้ากับข้อมูลสามารถทำใหม่ได้ทุกครั้งที่ต้องการ ถ้ามีแฟ้มจดหมายและแฟ้มข้อมูลที่เคยสร้างด้วยโปรแกรมจดหมายเวียนอยู่แล้วเพียงแต่เปิดแฟ้มจดหมาย ก็จะสามารถทำการรวมจดหมายในขั้นตอนใส่เขตข้อมูลได้เลย
การพิมพ์ข้อมูลเพิ่มในแฟ้มข้อมูล สามารถทำได้ดังนี้

1. เปิดแฟ้มเอกสารหรือแฟ้มจดหมาย
2. คลิกคำสั่ง เครื่องมือ => จดหมายเวียน
3. คลิกคำสั่ง รับข้อมูล => เปิดแหล่งข้อมูล
4. เลือกแฟ้มข้อมูลที่ต้องการ
5. คลิกคำสั่ง แก้ไข
6. คลิกชื่อแฟ้มที่ปรากฎจะปรากฎกรอบโต้ตอบฟอร์มว่างขึ้นมา ให้ทำการพิมพ์ข้อมูลเพิ่ม แต่ถ้าต้องการแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่แล้วเดิมให้คลิกปุ่มลูกศรถอยหลัง หรือเดิมหน้าทีละระเบียน หรือเดิมหน้าไปยังระเบียนแรกของแฟ้ม หรือถอยหลังไปยังระเบียนสุดท้ายของแฟ้ม
7. คลิก คำสั่ง OK

การใส่ชื่อเขตข้อมูลลงในตารางฐานข้อมูล

1. กรอกข้อมูลต่างๆของผู้รับ โดยต้องกรอกให้ตรงกับหัวข้อที่คุณได้กำหนดไว้
2. เมื่อกรอกข้อมูลของคนแรกเรียบร้อยให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพิ่มใหม่ สำหรับจะกรอกข้อมูลของคนต่อไป
3. เมื่อกรอกข้อมูลครบทุกคนแล้วให้คลิกเมาส์ ที่ปุ่ม ตกลง

กำหนดตำแหน่งที่จะใส่ข้อมูลในจดหมาย

1. คลิกเมาส์ในตำแหน่งที่จะใส่ข้อมูลในจดหมาย
2. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม แทรกเขตข้อมูลผสาน จะปรากฎหัวข้อที่กำหนดได้ในตารางฐานข้อมูล
3. คลิกเมาส์เลือกหัวข้อ คือ จะเป็นการแทรกชื่อ หรือข้อมูลต่างๆที่เราจะเลือกใส่ จะปรากฎหัวข้อที่คุณเลือกในจดหมาย
4. ทำข้อ 2 และ 3 ซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะกำหนดหัวข้อที่ต้องการเรียบร้อย

ทำการทดสอบผลลัพธ์

การสร้างจดหมายเวียนคุณสามารถทดสอบว่าผลลัพธ์นั้นถูกต้องตามที่คุณต้องการหรือไม่ โดยจะมีเมนูในการทำงาน ดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อกำหนดให้แสดงผลลัพธ์

2. ตรวจสอบผลลัพธ์ในจดหมายฉบับแรก
3. คลิกเมาส์ ที่ปุ่ม สำหรับตรวจดูจดหมายฉบับต่อๆ ไป
ใส่ข้อมูลของผู้รับในจดหมาย
เมื่อผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะกำหนดสิ่งต่างๆ ลงในจดหมายเวียนของคุณโดยคุณสามารถเลือกว่า จะให้เก็บผลลัพธ์ที่ได้นั้นใส่ลงในเอกสารฉบับใหม่ หรือกำหนดให้พิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์เลยทันที ส่วนตัวแล้วมักจะใช้วิธีแรกมากกว่า คือ จะเก็บผลลัพธ์ไว้เพราะสามารถแก้ไขในรายละเอียดบางจุดของจดหมายในแต่ละฉบับได้
การผลิตจดหมายเวียนทำได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม จะปรากฎกรอบโต้ตอบการผสาน
2. กำหนดว่าจะให้เก็บผลลัพธ์ของจดหมายเวียนนี้ไปไว้ที่ใดโดยคลิกเมาส์ที่ New document (สร้างเอกสาร)
- ถ้าเลือก New document คือการเก็บที่เอกสารฉบับใหม่
- ถ้าเลือก Printer คือการสั่งพิมพ์ผลลัพธ์ออกทางเครื่องพิมพ์ทันที
3. เลือกว่าจะให้ดึงข้อมูลจากตารางฐานข้อมูลใดบ้าง ดังนี้
- คลิกเมาส์เลือก all (ทั้งหมด) คือจะดึงข้อมูลจากตารางฐานข้อมูลมาทั้งหมด
- คลิกเมาส์เลือก from (จาก) คือคุณจะเป็นผู้กำหนดช่วงของการดึงข้อมูล จากนั้นคุณต้องกำหนดว่าจะดึงข้อมูลลำดับที่เท่าใดในฐานข้อมูลด้วย
4. คลิกเมาสที่ปุ่ม ผสาน (ถ้าคุณเลือก New document คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ในเอกสารฉบับใหม่ทันที) ก็จะได้ผลลัพธ์ก็คือ เห็นข้อมูลของผู้รับจดหมายทั้งหมดที่จะส่งออกทางจอของคุณ

ารทำจดหมายเวียนที่มีที่มีแฟ้มจดหมายและแฟ้มข้อมูลแล้ว

การรวมจดหมายเวียนเข้ากับข้อมูลสามารถทำใหม่ได้ทุกครั้งที่ต้อง ถ้ามีแฟ้มจดหมายและแฟ้มข้อมูลที่เคยสร้างด้วยโปรแกรมจดหมายเวียนอยู่แล้ว เพียงแต่เปิดแฟ้มจดหมาย ก็จะสามารถทำการรวมจดหมายในขั้นตอน ใส่เขตข้อมูลได้เลย

การพิมพ์ข้อมูลเพิ่มในแฟ้มข้อมูล

การพิมพ์ข้อมูลเพิ่มในแฟ้มข้อมูล สามารถทำได้ดังนี้

1. เปิดแฟ้มเอกสารหรือแฟ้มจดหมาย

2. คลิกคำสั่งเครื่องมือ => จดหมายเวียน

3. คลิกคำสั่งรับข้อมูล => เปิดแหล่งข้อมูล

4. เลือกแฟ้มข้อมูลที่ต้องการ

5. คลิกคำสั่ง แก้ไข

6. คลิกชื่อแฟ้มที่ปรากฎจะปรากฎกรอบโต้ตอบ ฟอร์ม ว่างขึ้นมาให้ทำการพิมพ์ข้อมุลเพิ่ม แต่ถ้าต้องการแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่แล้วเดิมให้คลิกปุ่มลูกศรถอยหลัง หรือเดิมหน้าทีละระเบียน หรือเดิมหน้าไปยังระเบียนแรกของแฟ้ม หรือถอยหลังไปยังระเบียนสุดท้ายของแฟ้ม

7. คลิก คำสั่ง OK

การใส่ชื่อเขตข้อมูล

การใส่ชื่อเขตข้อมูลลงในตารางฐานข้อมูล

1. กรอกข้อมูลต่างๆ ของผู้รับโดยต้องกรอกให้ตรงกับหัวข้อที่คุณได้กำหนดไว้

2. เมื่อกรอกข้อมูลของคนแรกเรียบร้อยให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพิ่มใหม่ สำหรับจะกรอกข้อมูลของคนต่อไป

3. เมื่อกรอกข้อมูลครบทุกคนแล้วให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม ตกลง


การใส่ชื่อเขตข้อมูลลงเอกสาร

กำหนดตำแหน่งที่จะใส่ข้อมูลในจดหมาย

1. คลิกเมาส์ในตำแหน่งที่จะใส่ข้อมูลในจดหมาย

2. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม แทรกเขตข้อมูลผสาน จะปรากฎหัวข้อที่กำหนดได้ในตารางฐานข้อมูล

3. คลิกเมาส์เลือกหัวข้อ คือ จะเป็นการแทรกชื่อ หรือข้อมูลต่างๆที่เราจะเลือกใส่ จะปรากฎหัวข้อที่คุณเลือกในจดหมาย

4. ทำข้อ 2 และ 3 ซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะกำหนดหัวข้อที่ต้องการเรียบร้อย



ทำการทดสอบผลลัพธ์การสร้างจดหมายเวียนคุณสามารถทดสอบว่าผลลัพธ์นั้นถูกต้องตามที่คุณต้องการหรือไม่ โดยจะมีเมนูในการทำงาน ดังนี้

1. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อกำหนดให้แสดงผลลัพธ์

2. ตรวจสอบผลลัพธ์ในจดหมายฉบับแรก

3. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม สำหรับตรวจดูจดหมายฉบับต่อๆ ไป


ใส่ข้อมูลของผู้รับในจดหมาย เมื่อผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะกำหนดสิ่งต่างๆ ลงในจดหมายเวียนของคุณ โดยคุณสามารถเลือกว่าจะให้เก็บผลลัพธ์ที่ได้นั้นใส่ลงในเอกสารฉบับใหม่ หรือกำหนดให้พิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์เลยทันที ส่วนตัวแล้วมักจะใช้วิธีแรกมากกว่า คือ จะเก็บผลลัพธ์ไว้ เพราะสามารถแก้ไขในรายละเอียดบางจุดของจดหมายในแต่ละฉบับได้ การผลิตจดหมายเวียนทำได้ ดังนี้

1. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม จะปรากฎกรอบโต้ตอบ การผสาน

2. กำหนดว่าจะให้เก็บผลลัพธ์ของจดหมายเวียนนี้ไปไว้ที่ใด โดยคลิกเมาส์ ที่ New document (สร้างเอกสาร)

- ถ้าเลือก New document คือการเก็บที่เอกสารฉบับใหม่

- ถ้าเลือก Printer คือการสั่งพิมพ์ผลลัพธ์ออกทางเครื่องพิมพ์ทันที

3. เลือกว่าจะให้ดึงข้อมูลจากตารางฐานข้อมูลใดบ้าง ดังนี้

- คลิกเมาส์ เลือก all (ทั้งหมด) คือจะดึงข้อมูลจากตารางฐานข้อมูลมาทั้งหมด

- คลิกเมาส์ เลือก from (จาก) คือ คุณจะเป็นผู้กำหนดช่วงของการดึงข้อมูล จากนั้นคุณต้องกำหนดว่าจะดึงข้อมูลลำดับที่เท่าใด ในฐานข้อมูลด้วย

4. คลิกเมาส ที่ปุ่ม ผสาน (ถ้าคุณเลือก New document คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ในเอกสารฉบับใหม่ทันที) ก็จะได้ผลลัพธ์ก็คือ เห็นข้อมูลของผู้รับจดหมายทั้งหมดที่จะส่งออกทางจอของคุณ

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551

...ส่วนตั๊ว~ส่วนตัว...


ชื่อทางการ สุนิสา ไตรวาศน์
เพื่อนเรียก นก
ลืมตา 12 กรกฎาคม 2528
บ้านเกิด พิษณุโลก
อาศัย หนองแขม
ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ชอบสี ฟ้า
ชอบกิน แกงเขียวหวานไก่
อยากไป น้ำตก ทะเล
เบอร์ ไม่มี



การสร้างBlogger

การสร้างบล็อกโดยใช้ blogger แบบมืออาชีพซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของการสร้าง blogger เพื่อนๆ อาจทำเป็นอยู่แล้วหรืออาจมีรหัสบล็อกเกอร์อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรถ้าเพื่อนๆต้องการเติมความรู้กับการสมัคร blogger โดยใช้โมเดลการอบรมนี้ก็ลองศึกษาและ ปฏิบัติดูได้แต่ก่อนที่เราจะทำการสมัคร blogger เรามาทำการทบทวนเครื่องมือที่และการบ้านที่เราจะต้องเตรียมไว้ให้เรีบร้อยก่อน ถ้าไม่ทำพอถึงบทสัมมนาต่อๆไปจะไม่สามารถทำได้ และถ้าเพื่อนๆคนใดลงมือทำพร้อมๆกันไปตอนนี้ ข้อดีประการนึงที่เราจะได้รับคือ จะทำให้เรามีรายได้ทันทีเมื่อถึงขั้นตอนที่เราจะปั้มเงิน ซึ่งถ้าเราไม่ทำการบ้านมาก่อนจะทำให้เรา เวลาเริ่มทำตามโมเดลนี้จริงๆ เราก็ต้องมาเริ่มทำตามการบ้านที่ได้ให้ไว้ ซึ่งโมเดลนี้เราไม่สามารถลัดขั้นตอนใดๆได้เลย คนอื่นๆทำเงินกันไปแล้วแต่เรายังต้องมาทำตามขั้นตอนอยู่ ซึ่งอาจทำให้เราเสียเวลาโดยไม่จำเป็น
1. ตอนนี้เราต้องเตรียมแฟ้ม keywords จำนวน 9 บล็อก ซึ่งมาจากหมวดที่เราทำการเลือกมาแล้วเป็นลำดับที่หนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นเลือกหมวด 1.Business to Business โดยมี keywords ที่จะนำมาทำ blog ดังนี้ business sme profit risk financial freedom rich poor blog
2.เราทราบวิธีการในการนำ keywords ในแต่ละตัวมาทำการหา sub keywords จำนวน 100 คำ ได้แล้วซึ่งถือว่าเราพร้อมแล้ว ที่จะทำการทำบล็อกเกอร์ครับ โดยการสมัครบล็อกเกอร์ เราจะใช้โมเดลดังนี้ครับ1.เราต้องสมัคร อีเมล์ของ จีเมล์จำนวน 1 รหัส2.โดย1 รหัสของ บล็อกเกอร์ เราจะใส่บล็อกเพียง 10 บล็อกเท่านั้นมาดูทีละขั้นตอนเลยนะครับอันดับแรกเริ่มทำการสมัครเป็นสมาชิกจีเมล์ก่อน

ซึ่งถ้าเพื่อนๆได้ทำการบ้านข้อแรกมาแล้วก็จะมีรหัส จีเมล์แล้วก็ให้ใช้รหัสนั้นได้เลยนะครับ แต่ถ้ายังไม่ได้สมัคร ให้เพื่อนๆทำการสมัครเป็นสมาชิก จีเมล์ โดยทำตามขั้นตอน และแนวทางต่อไปนี้นะครับเนื่องจากว่า เราจะต้องใช้รหัส จีเมล์จำนวน 10 รหัส ในการรองรับ bloogger ของเราจำนวน 100 บล็อก ดังนั้นแนะนำให้เพื่อนๆทำการสมัคร สมาชิกจีเมล์ทันทีตอนนี้เลยครับ โดยทำตามแบบนี้นะครับ ตือเวลาสมัครให้ใช้ auto fill เข้าช่วยจะทำให้ไม่ต้องมานั่งกรอกรายละเอียดหลายรอบ จากนั้นชื่ออีเมล์ให้เราตั้งแนวนี้

เห็นข้อสังเกตอะไรบ้างไหม จะเห็นว่าจะใส่ตัวเลขลงไปใน ชื่อเมล์ด้วยเหตุที่ใส่ลงไปเพราะว่าจะช่วยให้เราทราบว่าเราสมัครไปกี่รหัสแล้ว และจะทำให้เราทราบหมวดของ เมล์ที่จะลงด้วยว่ารหัสไหนอยู่ในจีเมล์อะไร บางทีถ้าเพื่อนๆ กำลังกรอกและทำตามขั้นตอนนี้อาจเกิดความคิดเรื่องของการโปรโมตว่า ถ้าเรามีบล็อและรหัสมากขนาดนี้มันจะไม่ยุ่งยากเหรอ เวลาอัพเดท หรือเวลาต้องมาปรับปรุงข้อมูล ผมก็ต้องขอตอบว่าไม่ใช่ครับสำหรับโมเดลนี้ ลักษณะของโมเดลที่เพื่อนๆกำลังใช้นี้ จะเป็นการทำในลักษณะที่ว่า การทำบล็อกของเราคือการสร้างท่อน้ำเท่านั้น ความย่งยากของเราคือตอนที่เราสร้างท่อน่ำ แต่เมื่อเราสร้างท่อน้ำเสร็จแล้ว หน้าที่ของเราคือการเปิดน้ำและก็รอให้น้ำไหลออกมา ซึ่งเมื่อเราสร้างท่อเสร็จก็คือเสร็จงานแล้ว นี่แหละคือโมเดลนี้ เราไม่ตองมานั่งทำงานตลอดชีวิต ขอเพียงแค่เราใส่ใจในขั้นตอนของการ สร้างท่อน้ำเท่านั้น เราก็จะมีน้ำไว้ใช้อย่างเหลือเฟือ และแน่นอนว่า ถ้าเรามีท่อน้ำจำนวนมหาศาล เราจะมีน้ำไว้ใช้เพียงพอตลอดชีวิตและจนชั่วลูกหลานเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าลืมนะครับ ทุกโมเดลนี้ทำด้วยความตั้งใจ และท่อน้ำของเพื่อนๆก็จะสมบูรณ์ครับโอเค โม้มานาน มาลุยกันต่อตอนนี้ทำการสมัครเมล์ให้เรียบร้อยนะครับ และอย่าลืมรหัสล่ะครับเพราะเราต้องนำมาใช่อีกในบทสัมมนาหน้าเมื่อเราทำการสมัครเสร็จแล้ว ทีนี้เราก็พร้อมใช้มันมาทำการสมัคร บล็อกเกอร์แล้วครับอันดับที่สอง ทำการสมัคร blogger
ให้เราใช้รหัสของ จีเมล์ทำการสมัคร ann01@gmail.com จุดสังเกต คือเราจะเห็นว่าตอนที่เราสมัครนั้น เราจะเห็นชัดเจนว่า เราไม่ต้องทำการกรอกรหัส หรือรายละเอียดการสมัครอีกครั้ง ทำให้การสมัครของเรานั้นง่ายมาก แต่มีสูตการทำการสมัครตามขั้นตอนดังนี้ครับ
1.เข้าไปที่ http://www.blogger.com/ โดยใช้รหัสของ Gmail ซึ่งเมื่อเรามีรหัสของ จีเมล์แล้ว เราจะไม่ต้องทำการกรอกสมัครสมาชิกให้ยุ่งยากเลยครับ

2.ในขั้นตอนที่เขียนว่า Name your Blog จะมีช่องให้กรอกดังนี้ (ให้เรากรอกตามสูตรที่อธิบายไว้)


Blog title ตรงนี้ให้เราเอาชื่อ super keywords มาใส่ซึ่งถ้าเราไม่ใช้ super keywords เราจะไม่สามารถใช้ มันเป็นบ่อดึง ทราฟฟิกได้เลยนะครับ (สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า super keywords คืออะไรก็ต้องส่งการบ้านก่อนนะครับ)Blog address ให้เราใส่ super keywords ลงไปเช่นเดียวกันครับ ในหรณีที่เป็นคำผสม เราจะใส่เครื่องหมายคั่น - ระหว่างคำผสมสองคำหรือสามคำครับ มีเทคนิคเพิ่มเติมว่า ถ้าเราไม่ใช้ SK บล็อกของเราก็จะไม่ใช่บ่อดึงทราฟฟิกเลย ซึ่งตรงนี้หลายคนที่เริ่มงานกับ blogger จะทำผิดบ่อยมากๆWord Verification ตรงนี้ให้เราใส่ตัวอักษรที่ปรากฎลงไปครับกด continue3.เลือก templateเราจะเห็นว่ามี template ให้เราเลือกหลายอัน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ทำการใส่ใจมากนักกับการเลือก template แต่หารู้ไม่ว่าแต่ละ template นั้นการทำเงินที่แตกต่างกันมาก โดยมีอยู่เพียงสอง template เท่านั้น ที่ทำเงินมากที่สุด ซึ่งใน blog จำนวน 10 blog แรกนี้ให้เราใช้ template นี้

minima อันนี้ทำเงินได้มากที่สุดในบรรดาเทมเพลตทั้งหมด และยังติดอันดับ seo ได้เร็วที่สุดกว่าบรรดาทุก templatedots อันนี้ทำเงินได้เป็นอันดับที่สองในบรรดาเทมเพลตทั้งหมด และยังติดอันดับ seo ได้เร็วที่สุดกว่าบรรดาทุก template [หาเงิน หางาน หารายได้]เมื่อเลือก template เสร็จแล้วให้เราทำการกด continue ซึ่งเมื่อเราทำการกดแล้วก็จะถือว่าเราได้ทำการสร้างบล็อกเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อว่าเราจะต้องทำการ set ค่าต่อไปนี้ให้เรียบร้อยก่อน

4.Post Article ก่อน